บทพากย์เอราวัณ

 

บทพากย์เอราวัณ

 อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ช้างเอราวัณอัน (การุณราช) เนรมิตขึ้นนั้นก็ทรงเรี่ยวแรงแกร่งกล้าน่าเกรงขาม ผิวพรรณสีเผือกผ่องประดุจสังข์อันเกลี้ยงเกลา มี ๓๓ หัว หัวหนึ่งมี ๗ งา เปล่งประกายเรืองรองประดุจเพชรรัตน์
งาหนึ่งนั้นมีสระโบกขรณี ๗ สระ สระหนึ่งมีดอกบัว ๗ กอ               กอหนึ่งมี ๗ ดอก แต่ละดอกครั้นบานแล้วนับได้ ๗ กลีบ                แต่ละกลีบมีเทพธิดาที่สวยงามแน่งน้อยน่ารัก ๗ นาง แต่ละนางนั้นยังมีเทพธิดาบริวารอีก ๗ นาง ล้วนเป็นรูปอันมารนิรมิตขึ้นทั้งสิ้น ทั้งยังร่ายรำชม้ายชายตาทำทีดังนางฟ้าจริงๆ อีกทั้งทุกหัวของช้างยังมีวิมานอันงดงาม ประดุจปราสาทเวไชยันต์ของท้าวอมรินทร์ เครื่องประดับอันมี ซองหาง กระวิน สายชนัก ล้วน         ถักร้อยด้วยสร้อยทอง ประดับโกมินล้อมแก้วนพเก้า ผ้าทิพย์           ปกตระพองก็ร้อยประดับด้วยเพชร มีสายสร้อยห้อยเป็นพู่ลงทั่วทุกหูช้าง 

             ขุนมารโลทันซึ่งเป็นสารถีของอินทรชิตก็แปลงเป็นควาญท้ายช้าง   ทัพทั้ง ๔ เหล่า ต่างแปลงกายเป็นชาวฟ้าชาวสวรรค์ มีอารักขเทวดาและรุกขเทวดา (เทพารักษ์) เป็นทัพหน้า ครุฑ กินนร นาค เป็นทัพหลัง พวกฤๅษีและวิทยาธร เป็นปีกซ้าย มีคนธรรพ์เป็นปีกขวา ตั้งทัพตามตำรับพิชัยสงคราม ถืออาวุธเกรียงไกรคือ หอก ธนู ดาบ กระบอง ครบมือ  แล้วเหาะเหินมาบนฟากฟ้า เคลื่อนพลเข้าสู่สมรภูมิ ฯ

ฝ่ายพระราม  พอรุ่งเช้า  มีลมพัดโชยเข้ามาหอมกลิ่นดอกไม้ฟุ้งเต็มป่าดง  มีผึ้ง เหม หงส์  บินร่อนถลาลงมาชื่นชมดอกไม้  ดุเหว่า ไก่ ร้องขันตีปีกให้สัญญาณเช้าตรู่เร่งดวงตะวันให้รีบโผล่  นกตื่นนอนร้องขับขานหาคู่  ประสานเสียงไพเราะเสนาะในป่า  เดือนดาวก็ดับ  อับแสงลง ท้องฟ้าก็สว่างไสวจับสีทอง  พระรามก็ตื่นจากบรรทม

           จากนั้นก็ขึ้นรถทรงที่เป็นรถของพระอินทร์  ที่มีความงดงามยิ่ง  รถเทียมม้าที่ห้าวหาญ ชันหู ชูหาง มีสารถีขับออกมา  ที่พระหัตถ์ทรงพระขรรค์  สักครู่รถก็มาถึงสนามรบ   รถนั้นประดับพลอยตามเพลา  ดุม  เสียงรถม้าวิ่งกึกก้อง  มีมยุรฉัตร ชุมสาย  พัดโบก  พัชนี  มีลิงคอยโบกพัดให้  เสียงกลองรบของพระอินทร์ แตรสังข์ประสานเสียงกันในป่าอย่างน่าฟัง  เสียงพลทหารโห่ร้องเอาชัยสนั่นหวั่นไหว  ภูเขาสัตบรรพตทั้งหลายก็โอนเอียงโน้มลงมาถวายชัย  ทำให้พื้นดิน อากาศสะเทือนเลื่อนลั่น  จนเนื้อ นก ตกใจวิ่งหาที่ซ่อนเอาตัวรอด  ลูกครุฑกถึงกับตกลงจากสวรรค์  แม้นกหัสดินที่คาบช้างอยู่ก็ยังตกใจหลงวางช้างทันที  ฝูงวานรต่างแสดงอิทธิฤทธิ์  หักถอนต้นไม้ถือต่างอาวุธ  ป่าไม้แหลกลู่ลงราบเรียบด้วยฤทธิ์ของกองทัพพระราม  ทันใดนั้น อากาศบดบังดวงอาทิตย์  เหล่าเทวดาบนสวรรค์ทุกชั้นก็อำนวยอวยชัย  บ้างเปิดประตู หน้าต่างโปรยดอกไม้ทิพเพื่อสักการะพระราม  ขณะนั้นรถทรงก็ขับ เหาะ มาอย่างเร็วจนกงรถไม่จดพื้นดิน  เพื่อเร่งกองทัพวานรให้รีบมา

          ฝ่ายพระลักษมณ์ผู้เป็นน้องของพระราม  ก็เอ่ยถามสุครีพว่าเหตุใดพระอินทร์จึงเสด็จมาที่สนามรบนี้  สุครีพจึงทูลว่าปกติแล้วพระอินทร์จะเสด็จพร้อมด้วยเหล่าเทวดาเพื่ออวยชัยแด่พระรามด้วยข้าวตอกดอกไม้  แต่คราวนี้เห็นวิปริตผิดปกติ    ดูน่าฉงน  เพราะพระอินทร์ถืออาวุธ  แปลกมากหรือว่าพระอินทร์จะเข้าข้างฝ่ายอธรรม  ขอพระองค์จงดูให้ดีอย่าไว้ใจ  อย่าหลงกลของข้าศึก 

          ฝ่ายอินทรชิตสั่งให้เสนี อำมาตย์รำถวายพระลักษมณ์ เพื่อให้พระลักษมณ์เคลิบเคลิ้มเพื่อจะได้แผลงศรฆ่าให้ตาย  

อินทรชิตนั่งอยู่เหนือช้างเอราวัณ  มองดูก็เห็นพระลักษมณ์เคลิบเคลิ้มหลงใหล  เมื่อได้โอกาสอินทรชิตจึงจับศรพรหมาสตร์อันเรืองเดชขึ้นเหนือเศียร  เล็งใส่พระลักษมณ์แล้วก็แผลงศรออกไปหมายจะให้ถูกพระวรกายของพระลักษมณ์ อากาศก็โกลาหล  โลกลั่น  ด้วยอำนาจของศรพรหมาสตร์  ศรก็เต็มไปหมด  ถูกองค์พระลักษมณ์กลิ้งลงกลางสนามรบ


 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น